Tuesday, March 6, 2007

เรื่องเล่า เม้าท์ "น้าเอก"


ไปชลบุรีมา(ภาค๒)
ลุงวรรณ ที่รัก

หนูเล่าเรื่องไปชลบุรีต่อนะคะ ก่อนออกจากพนัสนิคมเราแวะตลาด อ.เอกได้ตะกร้าหวายใส่ขวดน้ำได้หกขวดสมใจ แถมไม้กวาดแข็งอีก 1 มัด มี 10 อันได้ แบ่งกับหนูคนละครึ่ง (นี้ก็กลับมาจากชลบุรีหลายวันแล้ว ไม้กวาดยังพิงฝาบ้านอยู่เลยค่ะ) จุดหมายต่อไปคือนาวิกโยธิน อ่าวเตยงาม สัตหีบ มีร้านอาหารแนะนำโดย อ.เอกวิทย์ สโมสรของนาวิกโยธินอยู่ริมทะเล น้ำทะเลที่นี้ใสมากสีสวย สีฟ้า สีเขียว สลับกันไปเป็นช่วงๆ ตรงร้านเป็นชายหาดที่ไม่มีหาดทรายมีแต่โขดหินเล็กๆ เต็มไปหมด นั่งทานข้าวอยู่หนูเห็นปลากระโดดด้วยค่ะ บอก อ.เอก ท่านถามว่าโลมารึเปล่าเพราะแถวนี้มีคนเห็นบ่อยๆ หนูว่าไม่น่าใช่ แต่สงสัยจะเป็นแซลมอนซ้อมว่ายน้ำกลับบ้าน เพราะตัวเล็กเวลาดีดตัวขึ้นจากน้ำจะพยายามพุ่งตัวไปข้างหน้า พร้อมสะบัดหาง ไปมาสองที ทำอย่างนี้ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง คล้ายๆ กับท่าปลาแซลมอนเวลาว่ายทวนน้ำกลับไปวางไข่ที่ หนูเคยเห็นในทีวีเลยค่ะ
ต้องขอบอกว่าปูที่นี่สด เนื้อแน่นหวานม๊ากๆ (พี่จะว่าหนูเห็นชีวิตผู้อื่นเป็นสิ่งหอมหวานซิท่า) แต่ผงชูรสก็จัดทีเดียว ก่อนออกจากนาวิกโยธินเราขับรถขึ้นไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรฯ หนูขอให้ท่านช่วยประเทศชาติให้สงบสุข (ซ้อมไว้ค่ะเผื่อปีนี้เฮียวรรณจะส่งหนูประกวดนางสาวไทย) รอบๆ ศาลมีรูปจำลองเรือรบหลวงจัดแสดงไว้ครบทุกลำเลยค่ะ เราปีนขึ้นไปบนจุดชมวิวมองลงมาเห็นอ่าวเตยงามทั้งหมด ถ้าใครยังไม่เข้าใจว่าลักษณะของอ่าวสำหรับหลบคลื่นลมที่ดี เป็นอย่างไร แนะนำให้มาดูได้ค่ะ เพราะปีกของอ่าวทั้งสองข้างโน้มเข้าหาจนเกือบถึงกัน ตรงกลางอ่าวมีเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ สังเกตุดูด้านของเกาะที่หันออกทะเลจะเป็นหน้าผาตัด คงรับลมเต็มๆ เลยค่ะ
จากนาวิกโยธินจุดหมายต่อไปเป็นวิหารเซียน หนูอยากไปดูค่ะเพราะเห็นในทีวีมีอะไรต่ออะไรให้ดูเยอะไปหมด ลุงวรรณเคยไปหรึเปล่าค่ะ วิหารเซียนเป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบจีนขนาดใหญ่ มองจากด้านนอกดูไม่ออกว่ามีกี่ชั้น ก่อนเข้าชมเราต้องซื้อบัตรผ่านประตูคนละ 50 บาท ตรงทางเข้ามีรูปหล่อ 8 เซียน ในท่วงท่าเฉพาะของแต่ละองค์ เห็นแล้วนึกถึงหนังจีนแปดเทพอสูรมังกรฟ้าที่เคยดูตอนเด็กๆ ประตูเข้าอาคาร เป็นไม้แกะสลักรูปมังกรสูงสองเมตร ให้สีสวยมากค่ะ เดินเข้ามาข้างในตั้งพระสังกะจาย 3 องค์ วางเรียงจากองค์เล็กไปใหญ่ ในวิหารเซียนทั้ง 3 ชั้น เต็มไปด้วยรูปหล่อสำริดเซียน อรหันต์ พระโพธิสัตว์ พระพุทธรูปเยอะไปหมด แต่ละองค์ขนาดเล็กๆ ก็เท่ากับคนตัวใหญ่ๆ บางองค์ก็มีประวัติก่อนมาเป็นเซียนให้คนมาเที่ยวได้อ่านด้วยนะคะ ดูๆ แล้วหนูเกิดความรู้ว่าเซียนก็คือคนธรรมดา ที่ทำความดีโดดเด่น หรือสงเคราะห์ผู้อื่นๆโดยไม่หวังผลตอบแทน จริงๆ แล้วคงเป็นกุศโลบายให้คนทำความดี ถึงแม้ว่าตอนมีชีวิตอยู่ทำดีไม่มีใครเห็น แต่พระเจ้าเห็นและจะตอบแทนให้อยู่สุขสบายบนสวรรค์เมื่อตายแล้ว (ส่วนพวกที่โกงเก่งๆ มีคนว่า “แม่งเซียนจริงๆ” คงคนละอย่างกันนะคะ)
จากวิหารเซียนเราขับรถเลยไปอีกนิดก็ถึง เขาชีจันทร์ ที่จริงเรามองเห็นเขาชีจันทร์ตั้งแต่อยู่บนชั้นสามของวิหารเซียน แล้วค่ะ เพราะจุดเน่นของที่นี้เป็นรูปพระพุทธรูป สกัดบนหน้าผาด้วยแสงเลเซอร์ แล้วตัดเส้นด้วยสีทอง มีคนมาเที่ยวบางตาค่ะ ส่วนมากเป็นกลุ่มทัวร์คนจีน วันนี้คนไทยไม่ค่อยเที่ยว (สงสัยเพราะเป็นอาทิตย์ปลายเดือนนะคะ)
สรุปว่าวันนี้ก่อนไปงานแต่งงาน อ.เปิ้ล ที่บางละมุง เราได้แวะเที่ยว 3 ที่ ถ้าถามหนูะคะหนูชอบ “ศูนย์จักสานขนาดใหญ่” ที่พนัสนิคมมากที่สุด เพราะบรรยากาศร่มรื่นมีกลิ่นไอดิน กลิ่นดอกไม้ เครื่องมือเครื่องใช้ที่วางไว้ดู ใกล้กับชีวิตความเป็นอยู่ของเรานะคะ ที่วิหารเซียนถึงแม้จะมีรูปสำริดเซียนอยู่เป็นร้อย แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความสบายใจ ได้เท่ากับมองดูกล้วยไม้ดอกเล็กๆ ซักดอกเลยนะคะลุงวรรณ

No comments: